วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ปีศาจแห่งความเร็ว..พร้อมเปิดตัวแล้ว !!



เตรียมเฮกันได้แล้วสำหรับบรรดาแฟนคลับของเจ้าเสือแห่งความเร็ว ที่ทางค่ายจะทำการเปิดตัวรองเท้าเจเนอเรชั่นใหม่
ในวันที่ 10 ตุลาคม 2009 ที่จะถึงนี้ นั่นคือ v1.10 ภายได้สโลแกนใหม่กับคำว่า "The Demon Speed" หรือที่แปลเป็นไทย
ว่า "ปีศาจแห่งความเร็ว" ซึ่งภาพโฆษณาออกมาแบบคลุกฝุ่นกันเลยทีเดียว...



รองเท้าสายพันธุ์แห่งความเร็วซีรี่ย์นี้นับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 เข้าให้แล้ว ซึ่งในปัจจุบันมีแนวโน้มว่าจะได้รับเสียงตอบรับ
และความนิยมจากบรรดานักฟุตบอลทั่วโลกมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าการพัฒนาของพูม่าดูจะสวนทางกับความเป็นเจ้าแห่ง
ความเร็ว เนื่องจากน้ำหนักตัวของรองเท้าในแต่ละเจเนอเรชั่นนั้นมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น เป็นสาเหตุมาจากการที่ผู้ผลิตได้
ใส่รายละเอียดและอุปกรณ์ต่างๆ ลงไปบนตัวรองเท้า อย่างไรก็ดี..ถึงแม้ว่ารองเท้าจะมีน้ำหนักมากขึ้น แต่ก็ช่วยทำให้รถ
สปอร์ตที่มีดีแค่ความเร็ว กลับกลายเปลี่ยนเป็น "ปีศาจแห่งความเร็ว" ที่มีความว่องไวและมีศักยภาพแทบจะทุกด้านที่
สู้ใครต่อใครได้อย่างสบายนั่นเอง



จากกำหนดการบนหน้าเว็บไซด์หลักของพูม่านั้น ระบุไว้อย่างชัดเจนว่ารองเท้าใหม่ป้ายแดงคู่นี้พร้อมจะเปิดขายในวัน
ที่ 10 ตุลาคม 2009 ที่จะถึงนี้ ถือเป็นกำหนดการอย่างเป็นทางการสำหรับบรรดาแฟนคลับที่จะได้จับจอง โดยสีแรกสุด
ที่จะปล่อยออกมาอาละวาดในสนามฟุตบอลก็คือสีเหลืองแถบแดง เป็นสีที่โดดเด่ดมากที่สุดในสนามฟุตบอล ณ ขณะนี้
และพร้อมที่จะตามมาด้วยสีแดงแถบดำเป็นสีที่สอง...



นอกจากรองเท้าฟุตบอลแล้วยังมีอุปกรณ์อื่นๆ อันได้แก่ ถุงมือผู้รักษาประตู ลูกฟุตบอลและสนับแข้ง ที่มีกำหนดการ
ในการวางขายพร้อมกันกับรองเท้าฟุตบอล โดยยึดธีมสีเหลือง-แดงเช่นเดียวกับรองเท้าฟุตบอลอีกด้วย
ดังนั้นในวันเสาร์ที่ 10 ตุลาคมนี้จะเป็นวันปล่อยตัวปีศาจแห่งความเร็วออกมาอาละวาด พร้อมด้วยอาวุธเสริม
ต่างๆ อย่างครบครัน สำหรับราคาค่าตัวของรองเท้ารุ่น v1.10 นี้จะอยู่ที่ 199.99 $
ซึ่งราคาขายในประเทศไทย
ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ จะอยู่ที่ 5,995 บาท ตามเดิม...



ชมภาพรองเท้าจริง v 1.10 จากบอร์ดห้องภาพ(คลิกที่ภาพ) โดยคุณ Totalfootball


รูปภาพจาก : www.pumafootball.com , www.youtube.com , www.soccer.com

วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

"Predator X" เปิดตัวแล้ว..โครตดุ !!!





เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับนักล่าร่างที่ 10 "Predator X"
ซึ่งทางอาดิดาสให้ข้อมูลออกมาว่ารองเท้ารุ่นนี้คือราชาแห่งนักล่า
ของจริง นอกจากจะได้
สตีเฟ่น เจอราร์ด เป็นพรีเซนเตอร์เหมือนเดิมแล้ว ยังได้สุดยอดนักเตะที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของรองเท้าซีรี่ย์นี้
อย่าง ซีเนอดีน ซีดาน ร่วมในการออกแบบและทดสอบอีกด้วย...

กำหนดการเปิดตัวในวันที่ 26 ตุลาคม 2009 ไม่มีคลาดเคลื่อนแต่อย่างใด ทางอาดิดาสประกาศเปิดเจเนอเรชั่นที่ 10 ของตัวรองเท้าฟุต-
บอลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั่วโลก ภายใต้ชื่อ
"Predator X" ผ่านทางเว็บไซด์ของอาดิดาสอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมเปิดเผย
ข้อมูลว่ารองเท้ารุ่นใหม่นี้คือราชาแห่งนักล่าที่มีความครบเครื่องมากที่สุด ซึ่งถูกพัฒนาร่วมกับตำนานนักเตะที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของซีรี่ย์
Predator อย่าง
ซีเนอดีน ซีดาน พร้อมได้รับการทดสอบจากนักฟุตบอลระดับโลกหลายต่อหลายคนมาเป็นอย่างดี ซึ่งรองเท้ารุ่นใหม่นี้
ถูกอัดแน่นมาด้วยเทคโนโลยีระดับสูงอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
OPTIFIT , POWERSPINE และ PREDATOR® Element Techno-
logy



POWERSPINE
เทคโนโลยีเพิ่มพลังเท้าให้แก่ผู้สวมใส่ในเจเนอเรชั่นนี้ถูกเรียกว่า "PowerSpine" เป็นการพัฒนาวัสดุเสริมแรงที่มีความหยืดหยุ่นและ
มีความมั่นคง โดยปกติแล้วเมื่อคนเราเตะลูกฟุตบอลด้วยความแรง แรงต้านจากลูกฟุตบอลจะทำให้เท้าของผู้เตะงอ เป็นผลให้เกิดความ
สูญเสียทางแรง แต่วัสดุ
"PowerSpine" จะช่วยเสริมโครงสร้างรองเท้าไม่ให้งอตามแรงต้านจากมวลของลูกฟุตบอล เทคโนโลยีดัง
กล่าวจะมีผลช่วยให้เกิดการสูญเสียแรงน้อยลง เมื่อผู้สวมใส่ยิงลูกฟุตบอล แรงที่ให้จากเท้าสู่ลูกฟุตบอลจึงไม่เกิดการสูญเสีย วัดสุดัง
กล่าวจะถูกวางไว้ที่พื้นส่วนหน้าของรองเท้า ซึ่งถือเป็นจุดศูนย์ถ่วงที่ดีที่สุดของรองเท้า จะทำให้การยิงประตูมีประสิทธิภาพในด้านของ
ความแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม


PREDATOR® Element
เทคโนโลยีผิวสัมผัสของรองเท้าจะถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งถูกเรียกว่า "PREDATOR® Element Technology" จะทำหน้าที่
สำหรับการควบคุมลูกฟุตบอลและการปั่นโค้ง ผลตอบรับจากนักฟุตบอลระดับโลกที่ได้ทดสอบมาเป็นระยะเวลานาน บอกเป็นเสียง
เดียวกันว่าผิวสัมผัสแบบใหม่นี้มีประสิทธิภาพสูงกว่าเก่ามาก ช่วยให้ความแม่นยำ ,การควบคุมและการปั่นโค้งอย่างยอดเยี่ยม และยัง
สามารถใช้งานได้ดีทั้งในลักษณะสนามและรองเ้ท้าที่แห้งและเปียกได้อีกด้วย ซึ่งใช้วัสดุพอลิเมอร์ผสมระหว่างยางกับซิลิโคน


OPTIFIT
เทคโนโลยีใหม่ของ Predator เจเนอเรชั่นที่ 10 มีชื่อว่า "OPTIFIT" เป็นการผสานรวมกันระหว่างเทคโนโลยีและวัสดุที่ถูกออก
แบบสำหรับเพิ่มการสัมผัสที่มีประสิทธิภาพกับลูกฟุตบอล ซึ่งเทคโนโลยีส่วนนี้จะถูกวางไว้บริเวณข้างเท้าด้านนอก เป็นสัญลักษณ์
ของแถบสามขีดนั่นเอง



ข้อมูลเฉพาะของรองเท้า "Predator X"
ราชาแห่งนักล่ารุ่นใหม่ล่าสุดนี้มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมเป็นอย่างมาก นอกจาก 3 เทคโนโลยีดังที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมี
อีกหลายส่วนของรองเท้าที่ทางอาดิดาสออกแบบใหม่ ในรุ่นท็อปที่ปกติเคยใช้หนังจิงโจ้ที่มีความหนานุ่มจนเป็นที่ติดอกติดใจ
ของใครหลายๆ คนนั้นได้จบลงไปแล้ว เพราะหน้าผ้าของ
"Predator X" นั้นเปลี่ยนมาใช้หนังวัวกระทิง (Taurus) เนื่องจาก
มีความคงทนมากกว่าหนังจิงโจ้และยังมีความหนานุ่มใกล้เคียงกันอีกด้วย และอีกสิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นความแตกต่างได้อย่างชัด
เจนก็คือการที่นักล่ารุ่นใหม่นี้ไม่มีลิ้นปิดเชือก เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เรียกเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก ซึ่งทาง
อาดิดาสเลือกที่จะ
ทดแทนด้วยการใช้เชือกที่มีความแบน
เพื่อลดปัญหาการแฉลบของลูกฟุตบอลที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อโดนความหนาของเชือก
นอกจากนี้ชุดพื้นและปุ่มแบบ 2 ชิ้นแยกกันนั้นจะไม่มีอีกแล้ว
อาดิดาสเลือกใช้ชุดพื้นและปุ่มแบบ 1 ชิ้น ซึ่งจุดนี้จะช่วยเพิ่ม
ความกระชับและมั่นคงในการเคลื่อนไหว
โดยจะทำงานควบคู่กับเทคโนโลยี OPTIFIT





"พลังเท้าที่รุนแรงกว่าเก่าถึง 2 เท่า"


- ภาพ 2 ภาพด้านบนจากเว็บไซด์ของอาดิดาส แสดงกราฟที่ระบุว่า Predator X มีพละกำลังมากกว่า Predator PowerSwerve
ถึงเกือบ 2 เท่าเลยทีเดียว






คลิปวีดีโอของ Predator X


เทคโนโลยี "PowerSpine" จะช่วยไม่ให้เท้าของผู้เตะงอจากแรงต้านของลูกฟุตบอล

สำหรับการวางตลาดของ Predator X นั้นเริ่มทยอยออกมาขายตามเว็บไซด์ขายรองเท้าของต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว
ส่วนบรรดาสาวกนักล่าในเมืองไทยอย่าเพิ่งน้อยใจไป เพราะอาดิดาส(ประเทศไทย) จะนำจ้าวแห่งนักล่ารุ่นใหม่นี้เข้ามา
วางขายในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้แล้ว ราคาสำหรับตัวท็อปคาดว่าจะไม่ขยับไปไหน อยู่ที่ 6,990 บาท เหมือนเดิม...


Credit : www.siamboots.com

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

10 อันดับสุดยอดสวนสนุกของโลก....




10. ซีเวิลด์ (SeaWorld)

สวนสนุกซีเวิลด์เกิดจากแนวคิดของศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย 4 คน ที่ต้องการสร้างร้านอาหารที่มีบรรยากาศแบบทะเลๆ แต่แทนที่ลูกค้า
จะได้ทานปลาเป็นอาหาร พวกเขากลับพลิกแพลงให้ลูกค้าได้ชมปลาว่ายวนไปมารอบๆ ตัวแทนสวนสนุกซีเวิลด์แห่งแรกเกิดขึ้นที่ซานดิเอโกในปี
2507 จากนั้นก็มีเพิ่มขึ้น จนกระทั่งมีจำนวนถึง 3 แห่งในปัจจุบัน นอกจากที่ซานดิเอโกแล้วก็ยังมีอีกที่เมืองออร์แลนโดรัฐฟลอริดาและเมืองซานอัน
โทนิโอ รายการเด็ดของที่นี่คือ การแสดงสดของสัตว์น้ำแสนรู้ แน่นอนว่านักท่องเที่ยวมาที่นี่ก็ต้องเตรียมใจมาเปียก ทุกแห่งจะมีโปรแกรมสำหรับ
การทัศนศึกษาซึ่งเป็นการท่องเที่ยวแบบได้ความรู้ไปด้วยในตัว เด็กๆ สามารถเลือกโปรแกรมทั้งแบบมาเช้าเย็นกลับ และแบบค้างคืน ที่สวนสนุก
ซีเวิลด์ในออร์แลนโดยังมีโปรแกรมว่ายน้ำลึกกับปลาฉลาม ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ใส่ชุดประดาน้ำแล้วเข้าไปอยู่ในกรงเหล็ก ก่อนที่กรงจะถูกหย่อน
ลงสู่สระใหญ่ที่มีปลาฉลามเขี้ยวยาวว่ายวนอยู่รอบๆ



9. สวนสนุกพาราเมาท์

พาราเมาท์ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเวียคอมฯ คือคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เพราะจุดเด่นของที่นี่คือเครื่องเล่นหลาก
หลายชนิดที่มีแนวคิดมาจากภาพยนตร์ สวนสนุกของพาราเมาท์มี 5 แห่งในอเมริกาเหนือ แต่ละแห่งมีคอนเซ็ปต์เกี่ยวพันกับบริษัทในเครือเวียคอม
ที่ทำธุรกิจด้านบันเทิง เช่น บริษัทผู้ผลิตรายการการ์ตูนนิกเคิลโลเดี้ยนสวนสนุก "เกรท อเมริกา" (Great America) ของพาราเมาท์ที่ตั้งอยู่
นอกเมืองซานฟรานซิสโก มีบริเวณที่เรียกว่า นิกเคิลโลเดี้ยน เซ็นทรัล มีเครื่องเล่นหลายอย่างที่เกี่ยวพันกับรายการการ์ตูน เร็วๆ นี้มีเครื่องเล่นอีก
10 อย่างเพิ่มเข้ามา และที่สวนสนุกคิงส์ ไอส์แลนด์ของพาราเมาท์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ซินซินเนติ ก็มีเครื่องเล่นแนวรถไฟเหาะในความมืดที่เรียกว่า "สคูบี้
-ดู" และที่สวนสนุกคิงส์ โดมิเนียน ในรัฐเวอร์จิเนีย ก็มีเครื่องเล่นเป็นหอสูงที่ปล่อยนักท่องเที่ยวดิ่งลงมาจากความสูง 305 เมตร



8. เลโกแลนด์ (Legoland)

ตั้งอยู่ในเมืองคาร์ลส์บาด รัฐแคลิฟอร์เนีย สวนสนุกแห่งนี้มีทั้งส่วนที่จัดแสดงงานประติมากรรมที่ทำจากตัวต่อเลโก้นับล้านๆ ชิ้น และส่วนที่เป็น
เครื่องเล่นต่างๆ หัวใจหรือไฮไลต์ของสถานที่แห่งนี้ คือ "มินิแลนด์" ซึ่งใช้ตัวต่อเลโกมากกว่า 20 ล้านชิ้น สร้างอาคารจำลองซึ่งเป็นที่สำคัญๆ
ในสหรัฐอเมริกา เช่น ทำเนียบขาว และเมืองนิวยอร์กจำลองและทั่วทั้งสวนสนุกแห่งนี้มีการใช้ตัวต่อเลโกมากกว่า 30 ล้านชิ้น ถ้าไม่อยากเดินชม
เฉยๆ จะไปแวะหาความสนุกตื่นเต้นกับเครื่องเล่นต่างๆ ก็ได้ ที่นี่มีเครื่องเล่นมากกว่า 50 ชนิด และยังมีโรงเรียนฝึกขับรถ 1 แห่งอยู่ในนั้นด้วย
นอกจากนี้เด็กๆ ยังสามารถลงทะเบียนเข้าเรียนในคอร์สที่เรียกว่า "ไมนด์สตรอม" (Mindstorms) เพื่อฝึกหัดสร้างหุ่นยนต์ คอร์สนี้ทางสวนสนุก
จัดร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาซูเส็ตส์ หรือเอ็มไอที สถานที่แห่งนี้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2542 นอกจากที่สหรัฐแล้ว สวนสนุกเลโก
แลนด์ยังมีในอีก 3 ประเทศ คือ อังกฤษ เดนมาร์ก และเยอรมนี



7. เลค คอมเพาซ์ (Lake Compounce)

อยู่ในเมืองบริสตอล รัฐคอนเนกติกัต เป็นสวนสนุกอายุเก่าแก่ที่สุดในโลก และเป็นแห่งหนึ่งที่สวยที่สุดในโลกเช่นกัน เพราะที่แห่งนี้ล้อมรอบไปด้วย
ทะเลสาบและภูเขา เริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2389 หรือ 150 กว่าปีมาแล้ว แต่ตอนนั้นเปิดบริการในฐานะสวนสาธารณะให้ผู้คนเข้ามาพักผ่อน
หย่อนใจ ต่อมาในปี 2540 จึงมีนายทุนรายใหม่คือบริษัทสวนสนุกเคนนีวูดฯ เข้ามาซื้อกิจการทำเป็นสวนสนุกเต็มรูปแบบผู้ที่ชื่นชอบของเก่า ของ
โบราณก็ไม่ควรพลาดรถไฟเหาะและชิงช้าสวรค์รุ่นเจ้าคุณปู่ (ปี 2454) รวมทั้งเรือจักรไอน้ำที่จะพานักท่องเที่ยวล่องชมวิวทะเลสาบ นอกจากนี้เพื่อ
เป็นการรักษาบรรยากาศ สวนสนุกของครอบครัว จึงมีบริการเสิร์ฟน้ำอัดลมฟรีตลอดทั้งวัน (ของหวานขึ้นชื่อของที่นี่เป็นขนมทอดชื่อว่า "โอรีโอ")
เครื่องเล่นใหม่ล่าสุดของ เลค คอมเพาซ์มีชื่อว่า คลิปเปอร์ โคฟ (Clipper Cove) ตั้งอยู่ในบริเวณสวนน้ำ มีทั้งเชือก ทั้งตาข่ายและกระดานหก
ให้ปีนป่ายและกระโดดกันสุดเหวี่ยง นอกจากนี้ยังมีการแสดงของการ์ตูนการ์ฟิลด์และเพื่อนพ้อง รวมทั้งละครหุ่นโชว์ด้วย ที่นี่มีเครื่องเล่นทั้งหมด
40 อย่าง ค่าผ่านเข้าประตูสำหรับผู้ใหญ่ 29.95 ดอลลาร์ และเด็ก 20.95 ดอลลาร์



6. สวนสนุกเคนนี่วูด (Kennywood)

ผู้ที่ชื่นชอบสวนสนุกแบบดั้งเดิม ที่มีขนาดพื้นที่เล็กๆ ไม่ต้องเดินกันให้เมื่อยมากนัก ก็มักจะติดอกติดใจสวนสนุกเคนนี่วูด ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่
ปี 2441 แต่เดิมสวนสนุกแห่งนี้เป็นของบริษัทการรถไฟเอกชนที่มีนายแอนดรู เมลลอน เป็นเจ้าของ จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ชิงช้าสวรรค์และภัตตาคาร
แห่งหนึ่งจากยุคนั้นก็ยังคงตกทอดมาให้คนรุ่นนี้ได้เล่นและใช้บริการกัน ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นสถานที่สำคัญแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาแห่งหนึ่งด้วย
เพราะที่นี่มีมรดกทางวัฒนธรรมของอเมริกันมากมาย เช่น รถไฟเหาะรุ่นแรกๆ ที่ทำด้วยไม้ ล่องแก่งยุคแรกๆ ที่ทั้งเรือพายและเรือท่อนซุงทำจาก
ไม้จริงๆ แต่ก็ใช่ว่าที่นี่จะมีแต่ของเก่าๆ เพราะรถไฟเหาะและเครื่องเล่นยุคใหม่ที่ชวนตื่นเต้นหวาดเสียวก็มีให้เล่นกัน รวมทั้งสวนสนุกสไตล์ฮาวายที่
เรียกว่า หุบเขาแห่งภูเขาไฟ หรือ Volcano Valley ที่มีเครื่องเล่นที่เรียกว่า Big Kahuna เป็นเรือที่แล่นแบบควงสว่าน กระตุ้นต่อมอะดรีนาลินได้
เป็นอย่างดีที่นี่มีเครื่องเล่นสำหรับผู้ใหญ่ 34 ชนิด สำหรับเด็ก 14 ชนิด ช่วงฤดูร้อนมีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่า 1 ล้านคน ค่าผ่านประตู 8 ดอลลาร์
แต่สำหรับผู้สูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป ลดราคาลงเหลือ 7 ดอลลาร์ และค่าตั๋วเครื่องเล่นแบบ 1 วันเล่นได้ทุกอย่างก็เพียง 28.95 ดอลลาร์



5. สวนสนุกดิสนีย์ (Disney)

คำว่า "ดิสนีย์" กับคำว่า "สวนสนุก" นั้นแทบจะกลืนกลายเป็นคำเดียวกันไปแล้ว เพราะสวนสนุกดิสนีย์นั้น นับเป็นผู้บุกเบิกและดำเนินนโยบายการ
ตลาดที่ทำให้คนทั่วโลกได้ตระหนักรับรู้ถึงนิยามแห่งคำว่าสวนสนุก ปัจจุบันดิสนีย์มีสวนสนุก 5 แห่ง คือ สวนสนุกดิสนีย์ที่เมืองอันนาไฮม์ที่เมือง
อันนาไฮม์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย (เปิดในปี 2498) สวนสนุกวอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ ที่เมืองออร์แลนโดในรัฐฟลอริดา (เปิดในปี 2514) ที่กรุงโตเกียว
ประเทศญี่ปุ่น และที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสแห่งที่ 5 เปิดที่ฮ่องกงในช่วงปลายปี 2548 สวนสนุกแต่ละแห่งของดิสนีย์มีเครื่องเล่นจำนวนมากมาย
มีการแสดงและขบวนพาเหรดหลายรอบ ทั้งยังมีโรงแรม ร้านค้าและภัตตาคาร ร้านอาหารจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ละแห่งมีจำนวนเครื่องเล่นใหม่ๆ
เพิ่มเข้ามาอยู่เสมอ เช่นสวนสนุกวอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ ที่ฟลอริดา จะมีเครื่องเล่นใหม่ที่เรียกว่า Mission : SPACE at Epcot ซึ่งจำลองบรรยากาศ
การนั่งยานอวกาศไปสำรวจดาวอังคารถัดไปจะมีรีสอร์ตแห่งใหม่คือ Pop Century Resort และในก็จะมีที่เที่ยวแห่งใหม่ในบริเวณสวนสนุกแห่งนี้
คือ Epedition Everest เป็นรถไฟเหาะความเร็วสูงที่สามารถวิ่งถอยหลังได้ด้วย



4. ดิสคัฟเวอรี โคฟ (Discovery Cove)

เพิ่งเปิดเมื่อปี 2543 ตั้งอยู่ที่เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา เป็นสวนสนุกแบบสวนน้ำขนาดย่อมที่มีระบบวางผังและการจัดการดีเยี่ยม จำกัดจำนวน
นักท่องเที่ยวให้เข้าได้รอบละ 1,000 คนเท่านั้น ที่นี่จึงไม่ต้องมีการเข้าคิวเป็นแถวยาวเพื่อรอเล่นเครื่องเล่น บริการก็ทั่วถึงนักท่องเที่ยวทุกคน เพราะ
เมื่อเข้ามาภายในบริเวณแล้ว นักท่องเที่ยวแต่ละคนจะมีไกด์นำชม สวนน้ำแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของซีเวิลด์ (SeaWorld) ประกอบด้วยทะเลสาบน้ำจืด
ชายหาด แนวประการัง ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงสามารถว่ายจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งภายในบริเวณสวนสนุก หรือจะนั่งเรือไปก็ได้ ที่นี่ให้ทั้งความ
บันเทิงและความรู้ ไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวมุ่งจะมาทำคือการได้ว่ายน้ำเคียงข้างไปกับปลาโลมาแสนรู้ นอกจากนี้ยังมีทัวร์ดำน้ำอีกด้วย ราคาแพ็กเกจ
ทัวร์เริ่มที่ 229 ดอลลาร์



3. ซีดาร์ พ้อยท์ (Cedar Point)

อยู่ที่เมืองแซนดัสกี้ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกาเช่นกัน เน้นเครื่องเล่นประเภทรถไฟเหาะเป็นพิเศษสำหรับคนที่คลั่งไคล้ความรู้สึกขยักขย้อนในกระเพาะ
เวลาที่เคลื่อนตัวเลื่อนไหลวูบวาบไปตามรางรถ ซีดาร์ พ้อยท์มีเครื่องเล่นถึง 68 ชนิด และรถไฟเหาะอีก 16 ชนิด เรียกว่ามีมากกว่าสวนสนุกอื่นใด
ในโลกใบนี้ เครื่องเล่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวในฤดูร้อนนี้คือ Top Thrill Dragster ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเครื่องเล่นแนวรถไฟเหาะที่สูงที่สุดและเคลื่อนตัว
ด้วยความเร็วสูงสุดในโลก นั่นหมายถึงเมื่อรถเคลื่อนถึงยอดสูงสุดนั้น คือเหนือพื้นดิน 420 ฟุต และความเร็วสูงสุดคือ 120 ไมล์ต่อชั่วโมง มีทั้งการ
เคลื่อนตัวแบบตกดิ่งลงจากเบื้องสูง และหมุนม้วนแบบควงแต่ผู้ที่ชอบความบันเทิงแบบนุ่มนวลก็มีที่ให้เข้าไปหย่อนใจ คือสวนสนุกตัวการ์ตูนในชุด
"พีนัทส์" (Peanuts) หรือที่รู้จักกันดีในนามสนู้ปปี้และเพื่อนพ้อง

นอกจากนี้ยังมีสวนน้ำ Soak City สำหรับคนที่ไม่กลัวน้ำ และสวนสนุกประลองความเร็ว Challenge Park ที่มีสนามแข่งโกคาร์ท สนามกอล์ฟเล็ก
และเครื่องเล่น RipCord ที่ผสานความตื่นเต้นของการดิ่งพสุธาและการเล่นเครื่องร่อนเข้าไว้ด้วยกัน ช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเยอะที่สุดของที่นี่คือ
เดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ซีดาร์ พ้อยท์ เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2413 ราคาตั๋ว 43.95 ดอลลาร์



2. บุช การ์เด้น (Busch Garden)

เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2502 ตั้งอยู่ในเมืองแทมปา รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา และมีอีกแห่งที่เมืองวิลเลียมสเบิร์ก รัฐเวอร์จิเนีย (เปิดปี
2518) จุดเด่นคือความเป็นสวนสนุกที่ผนวกสวนสัตว์เข้าไว้ด้วย บรรยากาศจึงเน้นความเป็นธรรมชาติ รถไฟเหาะมีทั้งแบบดั้งเดิมที่เรียกเสียงกรี๊ด
พอเบาะๆ และแบบใหม่ที่เพิ่มความหวาดเสียวมากขึ้น สวนสนุก บุช การ์เด้น ที่เมืองแทมปา มีเครื่องเล่น 29 ชนิด เน้นบรรยากาศแบบแอฟริกา มีพื้นที่
จำลองป่าโปร่งที่นักท่องเที่ยวสามารถชมชีวิตความเป็นอยู่ของช้าง แรด ม้าลายและกวาง ที่หากินโดยอิสระอยู่ในพื้นที่กว่า 29 เอเคอร์ แหล่งดึง
ดูดใจใหม่ล่าสุดของสวนสนุกทั้งสองแห่งคือ บ้านผีสิง 4 มิติ (Haunted Lighthouse 4D theater) ซึ่งเป็นโรงภาพยนตร์ 3 มิติ ที่มีเอฟเฟกต์พิเศษเพิ่ม
ความสมจริงขึ้นมาอีกมิติ เช่น ลมระเบิดและฝอยน้ำ ที่ฉีดพวยพุ่งออกมาจากเก้าอี้นั่งของผู้ชมทุกๆ ที่นั่งที่วิลเลียมสเบิร์กจะเด่นที่เครื่องเล่นประเภท
รถไฟเหาะ และหมู่บ้านวัฒนธรรม โดยจะแบ่งพื้นที่สวนสนุกเป็นหมู่บ้านยุโรปจำลอง 9 หมู่บ้านเพื่อแสดงภาพวัฒนธรรมพื้นเมืองของอังกฤษ สกอตแลนด์
เยอรมนี และอิตาลีรวมจำนานเครื่องเล่นของที่นี่ก็ประมาณ 50 อย่าง ค่าตั๋ววันสำหรับผู้ใหญ่ 46.99 ดอลลาร์ ตั๋วเด็ก 39.99 ดอลลาร์ ส่วนบุช การ์เด้นท์
ที่เมืองแทมปา ค่าตั๋ววันสำหรับผู้ใหญ่ 51.95 ดอลลาร์ เด็ก 3-9 ขวบ 42.95 ดอลลาร์



และ1. อัลตั้น ทาวเวอร์ (Alton Towers)

สวนสนุกแห่งนี้อยู่ในประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ในเมือง Staffordshire ห่างจากกรุงลอนดอนไปทางเหนือประมาณ 2 ชั่วโมง เครื่องเล่นประเภทรถไฟ
เหาะทั้งหลายของอัลตั้น ทาวเวอร์ เป็นแม่เหล็กดึงดูดใจทั้งผู้ที่ไปเที่ยวแบบครอบครัวและผู้ที่แสวงหาความมันบนความระทึกใจโดยเฉพาะสอง
เครื่องเล่นใหม่ของที่นี่คือ บ้านผีสิงและลานเล่นลูกยางสำหรับเด็กเล็ก ส่วนผู้ที่ชอบความหวาดเสียวบนที่สูงก็ต้องไปลองเครื่องเล่นที่มีชื่อว่า
Black Hole, Submission และ Ripsaw

นอกจากเครื่องเล่นแล้ว ภายในบริเวณอัลตั้น ทาวเวอร์ยังมีโรงแรม 2 แห่ง และภายในโรงแรม 1 ใน 2 แห่งนี้ยังมีสวนสนุกแบบสวนน้ำสไตล์แคริบเบียน
ในร่มอีกด้วยนับเบ็ดเสร็จจำนวนเครื่องเล่นของที่นี่มี 30 อย่างด้วยกัน แต่ละฤดูกาลจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 2.5 ล้านคน และเดือนกรกฎาคมของ
แต่ละปีคือช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเนืองแน่นที่สุด อัลตั้น ทาวเวอร์ เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2523 ค่าเข้าชมสำหรับผู้ที่อายุ 12 ปีขึ้นไป 26 ปอนด์ 4-11
ขวบ 21 ปอนด์ และต่ำกว่า 4 ขวบเข้าฟรี





ที่มา seedang.com/stories

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

10 อันดับคนดังแห่งการทำศัลยกรรม "ยอดแย่" ของโลก

อันดับที่ 10 Michaela Romanini

สาวสังคมชาวอิตาลี

เธอเป็นผู้มีชื่อเสียงในเรื่องของการฉีดคลอลาเจน





อันดับที่ 9 Amanda Lepore

ดารานางแบบสาวประเภทสอง ชาวอเมริกัน





อันดับที่ 8 Jackie Stallone ดารานักแสดงชาวอเมริกัน




อันดับที่ 7 Donatella Versace

ดีไซน์เนอร์สาวชาวอิตาลี





อันดับที่ 6 Eric Sprague

นักแสดงโชว์ชาวอเมริกัน




อันดับที่ 5 Dennis Avner

ชายชาวอเมริกัน ที่ทำศัลยกรรมใบหน้าตัวเองเพื่อให้ดูเหมือนแมว




อันดับที่ 4 Pete Burns

นักร้องเกย์สาวชาวอังกฤษ




อันดับที่ 3 Michael Jeckson

ราชาเพลงร็อคชาวอเมริกัน ผู้ที่ขึ้นชื่อทางด้านศัลยกรรมเปลี่ยนสีผิว

อีกทั้งจมูกที่ทำมาไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง




อันดับที่ 2 Jocelyn Wildenstein

นักพูด Talk Show อายุ 68 ปี





อันดับที่ 1 Hang Mioku

สาวเกาหลี ที่รักการฉีดหน้าเป็นชีวิตจิตใจ

ทำมาโดยตลอดเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี ถึงขั้นใช้น้ำมันพืชฉีดหน้าตัวเอง







Credit : Forward mail

วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

•10 อันดับ ค้นพบใหม่ ทางชีววิทยา

10 อันดับ ค้นพบใหม่ "กิ้งกือมังกรสีชมพู" จากไทยติดโผ

....กิ้งกือมังกรสีชมพู สร้างชื่อให้ประเทศไทยด้วยการติดอันดับ 1 ใน 10 สุดยอดการค้นพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ของโลกแห่งปี 2550 แต่สิ่งมีชีวิตใหม่อีก 9 ชนิด ก็สร้างความตื่นเต้นฮือฮาให้แก่วงการวิทยาศาสตร์ไม่แพ้กัน ส่วนจะมีชนิดไหนบ้างและน่าตื่นเต้นมากน้อยเพียงใด เราจะนำพาไปรู้จักกันเดี๋ยวนี้เลย

...... สถาบันไอไอเอสอี (International Institute for Species Exploration: IISE) มหาวิทยาลัยแอริโซนาสเตท (Arizona State University) สหรัฐอเมริกา จัดอันดับ 10 สุดยอดการค้นพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่แห่งปี 2550 และประกาศรายชื่อสิ่งมีชีวิตใหม่ทั้ง 10 ชนิดไปแล้วเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2551 ซึ่งมีกิ้งกือมังกรสีชมพู เป็นตัวแทนของประเทศไทย เข้าป้ายติดโผกับเขาด้วยในอันดับที่ 3 ส่วนอันดับอื่นๆ มีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันต่อได้เลย


...................................................................................................................................


ปลากระเบนไฟฟ้า อิเล็กทรอลักซ์ แอดดิโซนิ (Electrolux addisoni)
อันดับ 1 ปลากระเบนไฟฟ้า (electric ray) ปลากระเบนไฟฟ้าชนิดนี้เป็นสกุลใหม่และชนิดใหม่ในวงศ์นาร์คิดี (Narkidae)






..... พบบริเวณชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศแอฟริกาใต้ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า อิเล็กทรอลักซ์ แอดดิโซนิ (Electrolux addisoni) ซึ่งอิเล็กทรอลักซ์นั้นมาจากชื่อของเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนชื่อสามัญเรียกว่าออร์เนท สลีพเพอร์ เรย์ (Ornate sleeper ray)






.....ด้วยลักษณะพิเศษที่สามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าได้และชื่อเรียกที่น่ารักน่าขัน ทำให้มันขึ้นแท่นอันดับ 1 ของ 10 สุดยอดการค้นพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ในโลกประจำปี 2550 ซึ่งการค้นพบปลากระเบนไฟฟ้าชนิดนี้เป็นสิ่งที่บ่งชี้ถึงความหลากหลายของปลาในมหาสมุทรอินเดียตะวันตกได้ว่ามากน้อยเพียงใด


...................................................................................................................................


ฟอสซิลส่วนหัวของไดโนเสาร์ปากเป็ด ไกรโพซอรัส โมนูเมนท์เอนซิส (Gryposaurus monumentensis)
อันดับ 2 ฟอสซิลไดโนเสาร์ปากเป็ด (Duck-billed Dinosaur)อายุ 75 ล้านปี



....ฟอสซิลไดโนเสาร์ปากเป็ดนี้ถูกค้นพบโดยทีมนักบรรพชีวินวิทยาของพิพิธภัณฑ์แอลฟ์ (Alf Museum) ชื่อวิทยาศาสตร์เรียกว่า ไกรโพซอรัส โมนูเมนท์เอนซิส (Gryposaurus monumentensis)



.....นับได้ว่าเป็นฟอสซิลไดโนเสาร์ปากเป็ดที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบ และคาดว่าน่าจะเป็นไดโนเสาร์ที่ขนาดใหญ่ที่สุดในแหล่งขุดค้นฟอสซิลบริเวณที่ราบทางตอนใต้ในรัฐยูทาห์ (Kaiparowits Plateau) เมื่อ 75 ล้านปีก่อน


...................................................................................................................................


กิ้งกือมังกรสีชมพู หรือ เดสโมไซเตส เพอร์พิวโรเซีย (Desmoxytes purpurosea)
อันดับ 3 กิ้งกือมังกรสีชมพู (Shocking pink dragon millipede)



.....กิ้งกือมังกรสีชมพูมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า เดสโมไซเตส เพอร์พิวโรเซีย (Desmoxytes purpurosea) ลักษณะรูปร่างสวยงามแปลกประหลาด มีสีชมพูสดใสตลอดทั้งตัว มีหนามแหลมคล้ายมังกร และสามารถปล่อยสารพิษจำพวกไซยาไนด์ออกมาป้องกันไม่ให้ศัตรูทำร้ายได้







.....พบในประเทศไทยเพียงแห่งเดียวในโลก มีตัวอย่างจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเดนมาร์ก มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน (Natural History Museum of Denmark, University of Copenhagen)


...................................................................................................................................

กบหายากชนิด ฟิลอตัส ไมอา (Philautus maia)
อันดับ 4 กบหายากของศรีลังกา




.....กบชนิดนี้เป็นกบหายากที่พบในประเทศศรีลังกา ชื่อวิทยาศาสตร์เรียกว่า ฟิลอตัส ไมอา (Philautus maia) โดยก่อนหน้านี้เชื่อว่ากบดังกล่าวได้สูญพันธุ์ไปแล้วในปัจจุบัน




.....แต่เมื่อมีการค้นพบกบชนิดนี้อีกครั้งจึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและสำคัญอย่างยิ่งต่อการศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพที่มีอยู่ในประเทศศรีลังกา ซึ่งกบดังกล่าวมีลักษณะเช่นเดียวกับตัวอย่างกบที่เก็บรักษาอยู่ในพิพิธภัณฑ์ตั้งแต่ปี 2403 และต่อมาไม่เคยมีใครพบเห็นอีกมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 แล้ว จึงเป็นไปได้ที่จะไม่ค่อยมีใครรู้จัก


...................................................................................................................................


งูไทปันชนิด ออกไซอุรานัส เทมโพราลิส (Oxyuranus temporalis)
อันดับ 5 งูไทปันชนิดใหม่ (Central Ranges Taipan)






..... หนึ่งในงูที่มีพิษร้ายมากที่สุดในโลก งูชนิดนี้มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ออกไซอุรานัส เทมโพราลิส (Oxyuranus temporalis) พบในประเทศออสเตรเลีย อาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในงูชนิดที่มีพิษรุนแรงที่สุดในโลก และเป็นญาติใกล้ชิดกับงูไทปันโพ้นทะเล (inland taipan) และงูไทปันชายฝั่ง (coastal taipan) ที่เป็นงูมีพิษร้ายแรงมากที่สุดอันดับ 1 และ 3 ของโลก




....ซึ่งการค้นพบงูชนิดนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดประเภทสิ่งมีชีวิตที่มีพิษรุนแรงเพื่อประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยที่ถูกพิษจากสัตว์เหล่านี้


...................................................................................................................................


ค้างคาวผลไม้ชนิด สไตลอคทีเนียม มินโดเรนซิส (Styloctenium mindorensis)
อันดับ 6 ค้างคาวผลไม้ (Mindoro stripe-faced fruit bat)




....ค้างคาวผลไม้ชนิดนี้มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า สไตลอคทีเนียม มินโดเรนซิส (Styloctenium mindorensis) พบบนเกาะมินโดโร (Mindoro) ประเทศฟิลิปปินส์แห่งเดียวเท่านั้น และเป็นค้างคาวชนิดที่ 2 ในสกุลสไตลอคทีเนียม โดยชนิดแรกนั้นพบอยู่บนเกาะสุลาเวสี อินโดนีเซีย



....ค้างคาวผลไม้ชนิดนี้จัดเป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากอีกชนิดหนึ่ง เนื่องจากที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของค้างคาวลดน้อยลง และยังถูกล่าจากมนุษย์ แต่การค้นพบค้างคาวชนิดใหม่นี้จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาพฤติกรรมและการกระจายพันธุ์ของค้างคาวบนเกาะมินโดโรเพื่อหาวิธีอนุรักษ์ต่อไป


...................................................................................................................................


เห็ดเซอโรโคมัส ซิลวูดเอนซิส (Xerocomus silwoodensis)
อันดับ 7 เห็ดเซอโรโคมัส ซิลวูดเอนซิส เซอโรโคมัส ซิลวูดเอนซิส (Xerocomus silwoodensis)




....เป็นเห็ดชนิดใหม่ที่พบอยู่ในซิลวูดแคมปัส (Silwood Campus) ในอิมพีเรียลคอลเลจ (Imperial College) กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่ก็ยังพบในบริเวณอื่นของอังกฤษอีก 2 แห่ง รวมทั้งในสเปนและอิตาลีอีกอย่างละหนึ่งแห่ง การค้นพบนี้มีความหมายอย่างยิ่งต่อการศึกษาชนิดของพืชพรรณต่างๆ ในบริเวณนั้น และสถานภาพของเห็ดชนิดนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้างในปัจจุบัน


...................................................................................................................................

แมงกะพรุนกล่องชนิด มาโล คิงกิ (Malo kingi)
อันดับ 8 - แมงกะพรุนกล่อง (box jellyfish)




....แมงกะพรุนชนิดใหม่นี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าแมงกะพรุนอิรุคันจิ (irukandji jellyfish) เป็นแมงกะพรุนกล่องชนิดที่ 2 ของในสกุลมาโล (Malo) ซึ่งมีพิษรุนแรงมาก ชื่อวิทยาศาสตร์เรียกว่า มาโล คิงกิ (Malo kingi)



....โดยตั้งตามชื่อของโรเบิร์ต คิง (Robert King) นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่เสียชีวิตเนื่องจากถูกพิษของแมงกะพรุนชนิดนี้ขณะเล่นน้ำทะเลอยู่ทางตอนเหนือของควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย การตายของคิงทำให้เกิดการตื่นตัวและหาวิธีการจัดการแมงกะพรุนชนิดดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยของประชาชน


...................................................................................................................................



ด้วงแรด เมกาซีราส ไบรอันซาลตินี (Megaceras briansaltini)
อันดับ 9 ด้วงแรด (Rhinoceros beetle)




....ที่มาของชื่อด้วงแรดมาจากลักษณะของเขาที่โค้งงอเหนือศีรษะของด้วงที่มองดูคล้ายกับนอของแรด ชื่อวิทยาศาสตร์เรียกว่า เมกาซีราส ไบรอันซาลตินี (Megaceras briansaltini) พบในประเทศเปรู ซึ่งลักษณะโดดเด่นแปลกประหลาดของด้วงแรดนี้ยังไปคล้ายคลึงกับด้วงแรดสีฟ้าในภาพยนตร์เรื่อง อะ บักส์ ไลฟ์ (A Bug's Life) อีกด้วย

...................................................................................................................................


ต้นมิชลินแมน (Michelin Man™ Plant)
อันดับ 10 ต้นมิชลินแมน (Michelin Man™ Plant)




....พืชชนิดใหม่รูปร่างประหลาด มีข้อปล้องพองๆ มองดูคล้ายกับมิชลินแมน (Michelin Man™) ตัวการ์ตูนที่เป็นพรีเซนเตอร์ของยางมิชลิน เลยถูกตั้งชื่อให้ว่าต้นมิชลินแมน



....ส่วนชื่อวิทยาศาสตร์เรียกว่า เทคติคอร์เนีย ไบเบนดา (Tecticornia bibenda) พืชชนิดนี้ถูกค้นพบทางตะวันตกของประเทศออสเตรเลียร่วมกับพืชชนิดใหม่อื่นๆ รวมทั้งสิ้น 298 ชนิด

(Credit : ข้อมูลและภาพประกอบจาก International Institute for Species Exploration: IISE)